50 อันดับหุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์ – ธันวาคม 2568
เป้าหมายของหุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์คือการค้นหา เพชรในตม (Hidden Gems) ในตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว
Click here to read this article in English.
ถึงเวลาแล้วที่จะเปิดเผยรายชื่อ 50 อันดับหุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์ ซึ่งผ่านการคัดเลือกโดยใช้เกณฑ์ รายการตรวจสอบการคัดเลือกหุ้นของ A. Stotz ผสานกับกรอบการทำงาน FVMR ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของเรา นอกจากนี้ เรายังได้วิเคราะห์ผลการดำเนินงานทางการเงินของแต่ละบริษัท เปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับโลกที่มีขนาดใกล้เคียงกัน โดยใช้ สามเหลี่ยมการจัดอันดับระดับโลก (World Class Benchmarking) ของเรา
เป้าหมายของหุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์คือการค้นหา เพชรในตม (Hidden Gems) ในตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว วัตถุประสงค์ของเราคือนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นกลางและ อ้างอิงจากข้อมูลจริง เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการศึกษาเบื้องต้น รายงานเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการค้นคว้าเพิ่มเติมเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน (คลิกที่นี่เพื่ออ่านคำสงวนสิทธิ์ฉบับเต็ม)
50 อันดับหุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์ (ผลประกอบการ ณ ไตรมาส 3 ปี 2568)
ข้อมูลทางการเงินล่าสุดที่เราใช้ในการจัดอันดับ 50 หุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์ ประจำไตรมาสนี้ อ้างอิงจากงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ท่านสามารถคลิกที่ชื่อบริษัทด้านล่างเพื่ออ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ Settrade นอกจากนี้ รายงานของเรายังเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มบทวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลกสำหรับนักลงทุนสถาบันอีกด้วย
หุ้นจำนวน 223 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์ หุ้นไทยที่ไม่มีบทวิเคราะห์ ในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่ไม่มีบทวิเคราะห์จะมีสิทธิ์ถูกนับรวมเข้ามาในกลุ่มนี้ เราจะคัดเลือกเฉพาะบริษัทนอกกลุ่มธุรกิจการเงิน (Non-financial companies) ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 3 เดือน ไม่ต่ำกว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 161,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งบริษัทดังกล่าวจะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินคะแนนการกำกับดูแลกิจการ (CGR) อีกด้วย
กลุ่มหุ้น Universe ทั้ง 223 บริษัท: บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ต่ำที่สุดอยู่ที่ 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (172 ล้านบาท) และสูงสุดอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (64,226 ล้านบาท) โดยมีค่ามัธยฐาน (Median) อยู่ที่ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,506 ล้านบาท) ในส่วนของปริมาณการซื้อขายซึ่งวัดจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 3 เดือนนั้น ระดับต่ำที่สุดเป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำของเราคือ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (161,000 บาท) และสูงสุดอยู่ที่ 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (90 ล้านบาท) โดยมีค่ามัธยฐาน (Median) อยู่ที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (645,000 บาท)
กลุ่มหุ้น Top 50: บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำที่สุดอยู่ที่ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (350 ล้านบาท) และสูงสุดอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (64,226 ล้านบาท) โดยมีค่ามัธยฐาน (Median) อยู่ที่ 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,009 ล้านบาท) ส่วนมูลค่าการซื้อขายต่ำที่สุดในกลุ่ม Top 50 เป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำของเราที่ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (161,000 บาท) และสูงสุดอยู่ที่ 0.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (29 ล้านบาท) โดยมีค่ามัธยฐานอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 968,000 บาท)



